5

“ฝนตกไม่ต้องล้างรถหรอก เดี๋ยวก็เลอะ” คำพูดเหล่านี้เป็นความเชื่อที่ว่ากันต่อ ๆ มา ก็ลองคิดดูสิ เพิ่งล้างรถเสร็จ ฝนกลับตก!! นี่มันทำร้ายจิตใจกันชัดๆ!! แต่เดี๋ยวก่อน การที่เข้าหน้าฝนแล้วไม่ล้างรถเลย รู้หรือไม่ว่า นั่นเป็นการทำร้ายรถคุณโดยไม่รู้ตัว!! วันนี้เรามาดูกันดีกว่าว่า #ทำไมยิ่งฝนตกต้องยิ่งล้างรถ!

1. ฝนกรด ฝังลึก

สำหรับใครที่อยู่ในเขตอุตสาหกรรมหรือต้องทำงานในเขตนั้นบ่อย ๆ มีความเสี่ยงสูงที่จะเจอฝนกรดมากกว่าพื้นที่อื่นๆ และการที่รถโดนฝนกรดบ่อยๆ โอกาสที่สีของรถยนต์จะเกิดความเสียหายก็ย่อมมีมากเช่นกัน เพราะฝนกรดจะมีค่าความเป็นกรดสูงมากกว่าน้ำฝนทั่วไป ซึ่งฝนกรดอาจจะฝังเข้าไปในผิวสีรถ การทำความสะอาดมีค่าใช้จ่ายสูง โอกาสของการพบเจอฝนกรดมีมากในเขตพื้นที่อุตสาหกรรม และพื้นที่ที่มีมลพิษทางอากาศสูง เขตกรุงเทพฯก็เช่นกัน

2. คราบน้ำฝังแน่น คราบน้ำฝังแน่น

หลังจากรถยนต์แห้งจากการตากฝนบ่อย ๆ จะทำให้มีคราบน้ำทำให้เกิดคราบน้ำบนสีรถ ยิ่งสะสมไว้คราบไว้นาน และตากแดดไปเรื่อย ๆ จะทำให้การทำความสะอาดยากขึ้น และส่งผลต่อสีของรถยนต์ในอนาคต ซึ่งทำให้ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการทำสีที่สูงขึ้น

3. ธรรมชาติ ลงโทษ!

สภาพอากาศช่วงนี้ที่ฝนฟ้าคะนองบ่อย ๆ ทำให้รถของคุณต้องตากฝนอยู่ตลอดเวลา แม้แต่การจอดรถไว้ใต้ต้นไม้เองก็ทำให้รถเกิดรอยได้ เพราะ เศษกิ่งไม้ ใบไม้ ที่ร่วงหล่นเกาะอยู่บนตัวรถแล้วแห้งติดกับรถทำให้พื้นสีรถด่างและเสีย โดยรอยคราบแห้งกรังที่เกิดขึ้นจะทำให้ทำความสะอาดยาก

4. สนิม กินใจ!

เพราะการใช้รถยนต์ในช่วงหน้าฝนบ่อยก็อาจะเป็นสามารถเป็นบ่อเกิดความชื้นซึ่งก่อให้เกิดสนิมได้ ดังนั้นเมื่อรถผ่านการลุยฝน เกิดความชื้นตลอดเวลา การชำระล้างและเป่าแห้งจะช่วยลดการเกิดสนิมได้

5. แรงดึงดูดที่มองไม่เห็น

รถเปียกนั้นดูดสิ่งสกปรกมาติดง่าย เช่น ฝุ่นละออง ซึ่งทำให้เกิดคราบดำ หากเป็นรถสีขาวจะทำให้สีรถหมองเร็ว โดยเฉพาะการขับรถไปในบริเวณที่มีดินโคลน หรือเศษฝุ่นเยอะ ๆ ก็อาจจะทำให้รถยนต์ของคุณนั้นได้ดึงดูดสิ่งสกปรกมาได้ หากชะล่าใจและปล่อยทิ้งไว้เป็นเวลานานก็จะทำให้รถยนต์เป็นคราบเปื้อนที่ล้างออกได้ยากมากยิ่งขึ้น

หากใครที่ยังมีความคิดว่าการล้างรถหน้าฝนนั้นไม่มีความจำเป็น ถือว่าเป็นความผิดมหันต์ จากที่กล่าวไปข้างต้นแล้วว่าหน้าฝนนั้นถือเป็นสาเหตุให้รถยนต์ของคุณเสื่อมสภาพได้เร็วกว่าปกติ การล้างรถถือว่าเป็นสิ่งจำเป็นที่จะช่วยถนอมและรักษารถยนต์ให้อยู่กับเราไปนาน ๆ นั่นเอง แต่หากใครไม่มีเวลาที่จะล้างรถยนต์แบบเต็มีรูปแบบ ก็ขอแนะนำให้ล้างรถด้วยการฉีดน้ำเปล่าเพื่อเป็นการขจัดคราบสกปรกที่อาจจะเกาะเป็นคราบฝังแน่น อย่างเช่น คราบโคลนดิน เศษใบไม้ และเศษฝุ่น เพียงเท่านี้รถยนตร์ของคุณก็อาจจะไม่ต้องทำสีบ่อยและดูใหม่อยู่เสมอนั่นเอง

💡วันนี้เราขอเสนอผลิตภัณฑ์ล้างและดูแลรถของท่านให้สวยงามอยู่ตลอดเวลา นั่นคือ!!
Hurricane Car Care
●Hurricane Car Care Engine Cleaner (Foggy spray) #น้ำยาล้างห้องเครื่อง
●Hurricane Car Care Scratch remover #น้ำยาลบรอยขีดข่วน
●Hurricane Car Care Interior Cleaner (Foggy spray) #น้ำยาทำความสะอาดภายใน
●Hurricane Car Care Super black shine tire (Foggy spray) #น้ำยาขัดยางดำ
●Hurricane Car Care HI-TECH pure glass coat (Foggy spray) #น้ำยาเคลือบแก้ว
●Hurricane Car Care Leather Extra (Foggy spray) #น้ำยาเคลือบเบาะหนัง
●Hurricane Car Care Super wash glass coat #น้ำยาล้างรถยนต์ และ #เคลือบแก้ว
ตัวอย่างน้ำยาแบบต่างๆ

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า

Welcome Back